Gumloop: สตาร์ทอัพ AI Automation ระดมทุน 20 ล้านดอลลาร์ท้าชนยักษ์ใหญ่

ทีมขายของคุณใช้เวลากี่ชั่วโมงต่อวันไปกับการหาข้อมูล Lead ด้วยมือ? 

ทีมการตลาดจมอยู่กับ Spreadsheet เพื่อวิเคราะห์ความคิดเห็นของลูกค้าใช่ไหม? งานซ้ำซากพวกนี้คือตัวการเงียบที่ฉุดรั้งการเติบโต

คนส่วนใหญ่บอกว่า "เอา AI มาช่วยสิ" 

แต่ปัญหาคือ AI tools ส่วนใหญ่ก็ยังใช้ยาก ราคาแพง หรือทำงานไม่ตรงที่ต้องการ 

Zapier มีแต่ simple workflows 

Make.com ก็ยังต้องเซ็ตอัพซับซ้อน 

แล้วตัว autonomous AI agents? เจ๊งเกินครึ่ง

นี่คือที่มาของ Gumloop สตาร์ทอัพจาก Vancouver ที่เริ่มจากห้องนอนเล็กๆ ที่ตอนนี้ระดมทุนไป 20 ล้านดอลลาร์แล้ว พวกเขาไม่ได้แค่สร้าง automation tool อีกตัว แต่กำลังสร้างวิธีคิดใหม่ทั้งหมดเกี่ยวกับ AI automation 

มาดูกันว่าทำไมนักลงทุนหลายคนถึงเชื่อมั่นใน Product นี้

จากการทดลองที่ล้มเหลวสู่ความเข้าใจที่แท้จริง

เมื่อเมษายน 2023 Max Brodeur-Urbas อดีต Software Engineer จาก Microsoft เจอ AutoGPT บน Reddit ตอนนั้น AutoGPT กำลังฮิตมาก มันคือ AI ที่ทำงานแบบ loop วนซ้ำเพื่อทำภารกิจซับซ้อน ฟังดูเจ๋งมาก

Brodeur-Urbas ลองใช้มันวางแพลนทริปอิตาลีให้แฟน ผลที่ได้ คือ list ธรรมดาๆ ที่ Google ก็หาได้ แต่เขายังรู้สึกว่า "นี่แหละ อนาคต"

ชุมชน Discord ของ AutoGPT ตอนนั้นคึกคักสุดๆ แต่ส่วนใหญ่เป็นคนไม่มีพื้นฐานเทคนิค ไม่รู้จะ setup ยังไง 

GitHub คืออะไร dependencies คือไร คนส่วนใหญ่ยังไม่มีความรู้ความเข้าใจตรงนี้

เขาเห็นโอกาสตรงนี้ เลยชวน Rahul Behal เพื่อนจาก McGill University ที่เคยทำที่ AWS มาช่วยกันสร้าง wrapper ให้ AutoGPT ใช้ง่าย

จุดเปลี่ยนครั้งใหญ่: เมื่อพบว่า Autonomous Agents ไม่ใช่คำตอบ

ห้องนอนใน Vancouver กลายเป็น office แรก ภายใน 3 วันเปิดตัวเวอร์ชันแรก Brodeur-Urbas จะเข้าไปใน Discord แนะนำคนที่กำลังติดปัญหา มีบั๊กเพียบ คนก็ยังไม่ค่อยไว้ใจเรื่อง OpenAI token แต่อย่างน้อยก็ช่วยแก้ปัญหาได้

สองสามสัปดาห์แรกทุกอย่างดูดี พวกเขาเพิ่ม features ใหม่ๆ file support, history, vector database selection แต่แล้ว user ก็เริ่มหายไป ทำไม?

เพราะ autonomous agents ไม่น่าเชื่อถือและแพงเกินจริง หลายคนลองสั่งให้ AI ทำงานที่ซับซ้อนเกินจริง โดยไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าสิ่งที่ขอนั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย

Brodeur-Urbas เล่าใน blog ว่า "ผมบอกได้เลยว่า 95% ของเคสที่มี prompt ขอให้ทำงาน มันไม่มีทางสำเร็จเลย" บางคนจ่าย 12 ดอลลาร์แล้วได้แค่ Agent ทำ Google search ซ้ำๆ โดยไม่ได้ผลอะไรเลย

นี่คือจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ พวกเขาตระหนักว่า AI ในธุรกิจต้องมีความแม่นยำสูง ไม่สามารถปล่อยให้ AI ตัดสินใจทุกอย่างเอง

คำตอบคือ? ใช้ AI แบบมีโครงสร้าง ออกแบบ workflow ที่ชัดเจน ใช้ AI แค่ในส่วนที่ต้องการ reasoning

ส่วนที่เหลือคือ infrastructure ที่แข็งแรง เชื่อถือได้ มันคือการผสมผสานระหว่างความฉลาดของมนุษย์กับพลังของ AI

จากห้องนอนสู่การระดมทุน 20 ล้านดอลลาร์

Product ในเวอร์ชั่นเริ่มแรกชื่อว่า AgentHub แต่พฤษภาคม 2024 ก็ถูกเปลี่ยนเป็น Gumloop เพื่อให้ฟังดูเข้าถึงง่ายกว่า 

และไม่กี่เดือนถัดมา Gumloop สามารถปิดการระดมทุนรอบ seed round ได้ 3.1 ล้านดอลลาร์ หลังผ่าน Y Combinator Winter 2024 batch มา

มาในปี 2025 Gumloop ประกาศระดมทุนรอบ Series A จำนวนกว่า 17 ล้านดอลลาร์ นำโดย Nexus Venture Partners โดยมีนักลงทุนเจ๋งๆ มาร่วมลงทุนรอบนี้ อย่าง Max Mullen ผู้ร่วมก่อตั้ง Instacart กับ Reynold Xin จาก Databricks 

สรุปในรอบนี้ รวมแล้วระดมทุนได้ 20 ล้านดอลลาร์ เกินกว่าที่ตั้งเป้าไว้

น่าสนใจตรงที่ Brodeur-Urbas บอกว่า "จริงๆ แล้วเราไม่จำเป็นต้องใช้เงินเลย การระดมทุนไม่ใช่เป้าหมาย แต่สร้างสิ่งที่คนรักต่างหาก เงินก้อนนี้แค่ช่วยให้เราทำได้เร็วขึ้น"

ตัดสินใจย้ายสู่ Silicon Valley

หลังปิดรอบระดมทุน พวกเขาประกาศย้ายจาก Vancouver ไป San Francisco Brodeur-Urbas อธิบายตรงๆ ว่า "San Francisco มันเหมือนแม่เหล็กดูดคนเก่ง Vancouver อยู่ไกลเกินไป คนที่มีความสามารถไปทำในแคลิฟอร์เนียได้เงินเดือนสามเท่า ใครจะอยู่ล่ะ"

ตอนนั้นทีมมีแค่ผู้ก่อตั้งสองคนกับพนักงานหนึ่งคน และกำลังหาคนเก่งๆ มาร่วมทีมเพิ่ม

Gumloop ต่างจากพวก Zapier ยังไง?

แพลตฟอร์มออกแบบให้ทุกคนสร้าง automation workflows ซับซ้อนได้โดยไม่ต้องเขียนโค้ด ใช้หลักการ drag-and-drop บน visual canvas เชื่อม "nodes" ต่างๆ เข้าด้วยกัน

แต่ละ node ทำหน้าที่เฉพาะ scrape website, อ่าน PDF, ดึงข้อมูลด้วย AI, หรือเชื่อมกับ Gmail, Slack, Google Sheets, Notion, Salesforce เชื่อมเข้าด้วยกันแล้วได้ "Flow" ที่สมบูรณ์

แล้วมันต่างจาก Zapier ตรงไหน?

จุดเด่นที่แตกต่างจริงๆ

1. AI อยู่ในดีเอ็นเอตั้งแต่แรก

AI ไม่ใช่ feature เสริม แต่เป็นหัวใจหลัก 

Gumloop มี AI nodes หลากหลายสำหรับงานละเอียดอ่อน เช่นการจัดหมวดหมู่, scoring, data extraction, image analysis 

สามารถเปลี่ยน AI model ได้แค่คลิกเดียว จะใช้ Claude 3.5 Sonnet สำหรับงานเขียน หรือ GPT-4o mini สำหรับ high volume ก็ได้ ไม่ต้องใส่ API key เอง เพราะรวมอยู่ใน subscription แล้ว

2. MCP Nodes: พูดเป็นภาษาคนก็เข้าใจ

ไม่ต้องค้นหา pre-built actions ใน menu ยาวๆ 

แค่พิมพ์อธิบายเป็นภาษาธรรมดา ระบบจะสร้าง working step ให้เอง เหมือนมี dev ส่วนตัวที่เข้าใจทุกอย่างที่เราพูด

3. Chrome Extension ตัวเปลี่ยนเกม

Chrome Extension ของ Gumloop เป็นสิ่งที่ผู้ใช้ติดใจ เพราะช่วยให้ browser กลายเป็นศูนย์กลาง automation

มันสามารถ record actions บน webpage แล้วเปลี่ยนเป็น workflow หรือ highlight text แล้ว trigger AI analysis ได้เลย

ที่สำคัญคือเพื่อนร่วมงานสามารถใช้งานได้สะดวกผ่าน extension โดยไม่ต้องเปิดเว็บไซต์หลัก

4. Templates สำเร็จรูปที่ใช้งานได้จริง

มี templates ให้เลือกเยอะ:

• GitHub PR Description Inserter: อ่าน changes แล้วเพิ่ม description ภายในไม่กี่วินาที
• Multi-Article Summarizer: สรุปบทความหลายชิ้นพร้อมกัน
• Hiring Candidate Ranking: จัดอันดับ resume
• Daily Stock Report: สร้างรายงานหุ้น PDF

5. Subflows: เหมือนเล่น Lego

เอา workflow หนึ่งไปใช้ในอีก workflow ได้ รองรับ loops, branching, conditional logic ซับซ้อน สร้างอะไรก็ได้ตามจินตนาการ

ใครใช้ Gumloop? ทำอะไรได้บ้าง?

ตอนนี้มีผู้ใช้หลายพันคน ลูกค้าองค์กรใหญ่อย่าง Instacart กับ Rippling ใช้งานอยู่ Fidji Simo CEO ของ Instacart บอกว่า "Gumloop ช่วยทุกทีม รวมถึงคนที่ไม่มีทักษะเทคนิค ให้ใช้ AI automate workflows ได้ productivity พุ่งปรี๊ดเลย"

Bryant Chou จาก Webflow บอกว่า "Gumloop คืนเวลาให้ทั้งองค์กร วางเครื่องมือไว้ในมือคนที่เข้าใจงาน ให้พวกเขา automate ทิ้งได้"

Use Cases จากโลกจริง

Marketing & Growth Teams 

• automate workflows ยาวๆ 
• scrape websites 
• ทำ lead scoring, 
• SEO workflows 
• วิเคราะห์ customer sentiment จาก social media ทุกอย่างอัตโนมัติ

Sales Teams 

• หา Contacts จากเว็บ
• ทำ outreach อัตโนมัติ 
• integrate กับ CRM score leads ไม่ต้องเสียเวลาทำมือ

Document Processing 

• บริษัทที่ต้องติดต่อภาครัฐจัดการฟอร์มและเอกสารกองโต 
• ทนายความใช้ Gumloop ประมวลผลเอกสาร จัดหมวดหมู่ นำเข้า CRM ได้

สร้างธุรกิจทั้งหมดบน Gumloop 

มี user บางรายสร้างธุรกิจเต็มรูปแบบบนแพลตฟอร์ม คนหนึ่งให้บริการประมวลผล academic papers สำหรับมหาวิทยาลัย สร้าง data pipeline ทั้งหมดบน Gumloop
แล้วขายบริการต่อในราคาสูง ไม่ต้องจ้าง AI engineer เลย คุ้มค่าเท่ากับเงินเดือน engineer หลายคน

เจ๋งสุดๆ

ศึกคู่แข่ง: Gumloop vs. Giants

ตลาด automation ปี 2025 เต็มไปด้วยผู้เล่นมากมาย แล้ว Gumloop จะเอาอะไรมาชน?

Gumloop vs. Zapier

Zapier คือ pioneer ของตลาดนี้ มีจุดขายหลักๆ คือ integration มากกว่า 7,000 apps แต่มีข้อจำกัดชัดเจน

ปัญหาของ Zapier:

• Task-based pricing ที่แพงตาม scale เพราะทุก step คิดเงินแยก
• Complex workflows ทำยาก เพราะ linear interface
• Free plan จำกัดแค่ single-step

Gumloop ตอบโจทย์อย่างไร?

Credit-based pricing

• คิดเงินแค่ตอน run flow และใช้ third-party services 
• ไม่คิดค่า internal operations เช่นอัพเดตข้อมูลใน Salesforce หรือ Notion ทำให้ต้นทุนคาดการณ์ได้

Visual canvas 

• สร้าง workflows แบบ flowchart AI steps, branching, loops ได้อิสระ

AI เป็นแกนหลัก 

• ไม่ใช่แค่เพิ่ม AI ทีหลังแบบ Zapier, Make

ลองคิดดูง่ายๆ:

• lead enrichment workflow pull new lead → enrich contact data → AI สร้าง personalized pitch → ส่ง Slack

ถ้าใช้ Zapier ทุก step คิดแยก workflow ซับซ้อนขึ้น ค่าใช้จ่ายพุ่ง 

แต่ Gumloop ราคาค่อนข้างคงที่ คิดแค่ตอน call third-party services

Gumloop vs. Make.com & n8n

Make (เดิม Integromat) visual workflow builder ราคาถูกกว่า Zapier n8n ก็เป็น open-source self-host ได้

Gumloop ต่างที่:

• AI-Native ตั้งแต่วันแรก
• Chrome Extension ทำ browser automation ง่ายสุดๆ
• Product Updates release features ใหม่ทุกสัปดาห์ feature ที่ request อาจออกภายในชั่วโมง

Brodeur-Urbas สรุปได้เด็ดว่า "ถ้า Zapier เป็นเครื่องคิดเลข เราคือ WolframAlpha" ทั้งสองแก้ปัญหาได้ แต่ระดับความซับซ้อนต่างกันคนละโลกเลย

อนาคตของ Gumloop และทิศทางตลาด

หลังได้เงิน 20 ล้านดอลลาร์ Gumloop จะทำอะไรต่อ?

แผนระยะสั้น: ทำให้เข้าถึงได้ง่ายขึ้น

Lower the Floor - ทำให้เริ่มต้นใช้ง่ายกว่าเดิม ตอนนี้ 20 นาทีแรกยังค่อนข้างใช้เวลาในการงมประมาณนึง แต่เป้าหมายของ Gumloop คือทำให้มันเป็น "empowering ทันที" ใครก็สร้าง AI workflow ได้

Community Building - สร้างชุมชน builders แชร์ templates และ best practices ให้คนอื่นเอาไปใช้ต่อได้เลย

แผนระยะยาว: พิชิต Enterprise Market

Raise the Ceiling - เพิ่มความสามารถให้ power users สร้าง workflows ที่ซับซ้อนมากขึ้น

Enterprise Focus - ตอนนี้ SOC 2 Type 2 และ GDPR compliant แล้ว จะเพิ่ม features สำหรับองค์กรใหญ่ เช่น advanced permissions, audit logs, dedicated support

ทิศทางตลาด AI Automation

Brodeur-Urbas มองว่าตลาดกำลังเปลี่ยนจาก "automation" ไปเป็น "AI augmentation" ไม่ใช่แค่ทำงานให้เร็วขึ้น แต่ทำให้คนทำงานได้ดีขึ้น ฉลาดขึ้น

Trend ที่กำลังมา:

1. No-Code AI Workflows - ทุกคนจะสามารถสร้าง AI-powered tools ได้ ไม่ต้องพึ่ง IT
2. Browser-Native Automation - automation จะอยู่ในที่ที่เราทำงาน ไม่ต้องไปเปิดอีก app
3. Structured AI Agents - autonomous agents แบบเต็มตัวจะไม่มาเร็วๆ นี้ แต่ structured agents ที่มีโครงสร้างชัดเจนจะเป็นมาตรฐาน
4. Workflow Marketplaces - คนจะซื้อขาย workflows กันเหมือนซื้อ apps

ความท้าทายข้างหน้า

Learning Curve - ความ powerful มาพร้อมความซับซ้อน การทำให้ง่ายโดยไม่เสีย power คือศิลปะ

การแข่งขัน - OpenAI กับบริษัทใหญ่ๆ กำลังพัฒนา "agentic" tools ทำให้ Gumloop ต้องเคลื่อนที่ให้เร็วกว่า

Product Velocity - การ ship features เร็วคือจุดแข็ง แต่พอบริษัทโต การรักษาความเร็วนี้จะยากขึ้น

Brodeur-Urbas มั่นใจว่า "เราไม่ได้แค่แข่งกับ Zapier หรือ Make แต่เรากำลังแข่งกับการทำงานแบบเก่า เราต้องการให้ทุกคนมี AI assistant ส่วนตัวที่ทำงานได้จริง ไม่ใช่แค่ chatbot ที่คุยเล่น"

สรุปจุดแข็งของ Gumloop

• Credit-based pricing เปลี่ยนเกม - จ่ายเฉพาะสิ่งที่ใช้จริง scale ขึ้นได้โดยไม่ต้องกลัวค่าใช้จ่ายพุ่ง ไม่เหมือน Zapier ที่ทุก step คิดเงิน นี่คือความได้เปรียบที่ชัดเจนที่สุด
  
  
• Chrome Extension คือ killer feature - automation เข้าถึงง่าย ไม่ต้องให้ทุกคนเข้า platform แค่กดปุ่มบน browser งานเสร็จ นี่คือ UX ที่เปลี่ยนเกมจริงๆ
  
  
• Gumloop กำลังสร้าง category ใหม่ - ไม่ใช่แค่ automation tool ธรรมดา แต่เป็น AI-native platform ที่ออกแบบมาให้ทุกคนสร้าง AI-powered workflows ได้ ไม่ต้องเป็น expert
  
  
• เงินลงทุนกว่า 20 ล้านดอลลาร์ เป็นสิ่งยืนยันทิศทางที่ใช่ - นักลงทุนชั้นนำเห็นว่า "structured AI automation" มีศักยภาพมากกว่า fully autonomous agents ที่ไม่น่าเชื่อถือ
  
  
• การย้ายสู่ San Francisco แสดงความจริงจัง - แม้เริ่มจาก Vancouver แต่การย้ายไป Silicon Valley พร้อมระดมทุนขนาดนี้ แสดงถึงความมุ่งมั่นแข่งขันระดับโลก ไม่ใช่แค่เล่นๆ
  
  
• ตลาดกำลังเปลี่ยน - ไม่ใช่เรื่อง "automation" อีกต่อไป แต่คือ "AI augmentation" ทำให้คนทำงานดีขึ้นด้วย AI ไม่ใช่แค่เร็วขึ้น Gumloop เข้าใจเรื่องนี้ตั้งแต่แรก
  
  

สรุปแล้ว Gumloop อาจไม่ใช่ทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับทุกคน 

ถ้าต้องการ simple automation ที่ setup ง่าย Zapier ยังเป็นตัวเลือกที่ดี 

แต่ถ้าต้องการสร้าง AI-powered workflows ซับซ้อน ต้องการ flexibility และพร้อมลงทุนเรียนรู้เล็กน้อย Gumloop คือตัวเลือกที่น่าสนใจที่สุดในตอนนี้

คำถามคือ พวกเขาจะเติบโตเร็วพอที่จะแข่งกับยักษ์ใหญ่ได้ไหม? หรือจะถูก OpenAI กับพวกที่มีเงินท่วมหัวแซงหน้าไป? 

น่าสนใจมากครับ