AI เจาะลึกอนาคตของงานและเศรษฐกิจ AI กับ Brad Lightcap และ Ronnie Chatterji

บทสัมภาษณ์ Brad Lightcap และ Ronnie Chatterji จาก OpenAI ที่วิเคราะห์ผลกระทบของ AI ต่อการทำงาน ธุรกิจขนาดเล็ก วิทยาศาสตร์ และเศรษฐกิจ พร้อมแนวทางเตรียมตัวในโลกที่ AI กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

ในยุคที่เทคโนโลยี AI ก้าวหน้าอย่างรวดเร็วจนหลายคนแทบตามไม่ทัน การเปลี่ยนแปลงในโลกของแรงงานและเศรษฐกิจจึงกลายเป็นหัวข้อที่ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวาง วิดีโอสัมภาษณ์ของ OpenAI ที่มี Brad Lightcap ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ และ Ronnie Chatterji หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ มาร่วมพูดคุยกับ Andrew Mayne จึงกลายเป็นบทสนทนาที่เปิดเผยมุมมองลึกซึ้งเกี่ยวกับผลกระทบของ AI ต่อซอฟต์แวร์ วิทยาศาสตร์ ธุรกิจขนาดเล็ก การศึกษา และตลาดแรงงาน ที่น่าสนใจคือทั้งสองคนไม่ได้พูดแค่ภาพรวมเชิงทฤษฎี แต่ยังลงลึกถึงการใช้งานจริงในปัจจุบันและอนาคตที่เราควรเตรียมตัว
จากสนามทดลองสู่การใช้งานจริง: กำเนิด ChatGPT
หนึ่งในจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ AI กลายเป็นเรื่องใกล้ตัวมากขึ้น คือการเปิดตัว ChatGPT ในเดือนพฤศจิกายน 2022 ก่อนหน้านั้น OpenAI มี API สำหรับนักพัฒนาที่ให้ทดลองใช้ผ่าน "playground" ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ผู้ใช้งานสามารถลองส่งคำสั่งและดูผลลัพธ์การทำงานของโมเดล AI ได้ แต่สิ่งที่น่าตื่นเต้นคือผู้ใช้เริ่มพยายามสร้างบทสนทนาและโต้ตอบกับ AI เหมือนคุยกับเพื่อนคนหนึ่ง นั่นเป็นสัญญาณแรกที่ชี้ว่าอินเทอร์เฟซแบบแชทจะเป็นกุญแจสำคัญในการปลดล็อกความสามารถของ AI
จากนั้น OpenAI ได้พัฒนา ChatGPT ให้เป็นโมเดลที่เข้าใจคำสั่งและตอบสนองในรูปแบบบทสนทนา ทำให้การใช้งานง่ายขึ้นและเหมาะกับผู้ใช้ทั่วไปมากกว่าเดิม แม้ว่า ChatGPT ในช่วงแรกจะใช้ GPT-3.5 ที่ไม่ได้ฉลาดหรือเร็วเท่า GPT-4 แต่การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญอยู่ที่อินเทอร์เฟซที่ทำให้ผู้คนรู้สึกอยากถามคำถามและทดลองทำสิ่งต่างๆ มากขึ้น
Brad Lightcap เล่าถึงความรู้สึกที่ทีมงานได้รับว่า ChatGPT กลายเป็น "ยุคแรกของ AI" ที่เน้นการสนทนาและช่วยเหลือผู้ใช้ได้จริง จุดนี้ทำให้ AI ไม่ใช่แค่เรื่องในอนาคตอีกต่อไป แต่กลายเป็นเครื่องมือที่คนทั่วไปรู้จักและใช้งานได้ในชีวิตประจำวัน
AI กับการเปลี่ยนแปลงของงานและการเพิ่มผลผลิต
เมื่อ AI เริ่มถูกใช้อย่างกว้างขวาง คำถามที่เกิดขึ้นคือมันจะส่งผลต่อแรงงานและเศรษฐกิจอย่างไร Ronnie Chatterji ในฐานะนักเศรษฐศาสตร์ของ OpenAI ให้ภาพที่น่าสนใจว่า AI กำลังเปลี่ยนแปลงวิธีที่ธุรกิจทำงานและวิธีที่คนทำงานในวงกว้าง โดยเขามองว่า AI คือการนำความสามารถทางปัญญาขั้นสูงมาสู่มือของคนทั่วไป ช่วยให้พวกเขาทำงานที่เคยทำไม่ได้หรือทำได้ยากขึ้นได้ง่ายขึ้นและเร็วขึ้น
Brad ยกตัวอย่างในวงการซอฟต์แวร์ที่เครื่องมือ AI ช่วยทำให้โปรแกรมเมอร์ทำงานได้มากขึ้นหลายเท่าตัว ไม่ใช่แค่ 10% แต่เป็น 5-10 เท่า เช่น การใช้เครื่องมืออย่าง Cursor หรือ Windsurf ที่ช่วยเขียนโค้ด ทดสอบ และแก้ไขได้อัตโนมัติ ช่วยให้ทีมพัฒนาซอฟต์แวร์สามารถเร่งงานได้อย่างรวดเร็วและมีคุณภาพมากขึ้น
ในมุมมองของ Ronnie การเพิ่มผลผลิตนี้จะสะท้อนไปยังเศรษฐกิจโดยรวม เมื่อแรงงานมีเครื่องมือช่วยทำงานที่ชาญฉลาดมากขึ้น ผลผลิตต่อคนก็จะสูงขึ้น ทำให้บริษัทต่างๆ สามารถสร้างมูลค่าได้มากขึ้น และพัฒนาเศรษฐกิจในภาพรวมได้อย่างก้าวกระโดด
ขยายขอบเขตการใช้งาน: AI ในงานวิทยาศาสตร์และธุรกิจขนาดเล็ก
อีกด้านที่น่าตื่นเต้นคือการนำ AI ไปใช้ในงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ เช่น การค้นพบยาใหม่และวัสดุศาสตร์ ที่มีความซับซ้อนและต้องการการวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมหาศาล AI ช่วยให้นักวิจัยสามารถประเมินทางเลือกได้รวดเร็วขึ้นและลึกซึ้งขึ้น รวมถึงช่วยจัดการกระบวนการทำงานที่ซับซ้อนหลายขั้นตอนให้มีประสิทธิภาพ
ในสายธุรกิจขนาดเล็ก AI ก็กลายเป็นเครื่องมือที่ช่วยปลดล็อกศักยภาพใหม่ๆ เช่น การให้คำแนะนำด้านกลยุทธ์ธุรกิจ การวางแผนเมนูร้านอาหาร หรือการจัดการลูกค้า Ronnie ชี้ว่า AI อาจกลายเป็นที่ปรึกษาส่วนตัวสำหรับเจ้าของธุรกิจรายเล็กๆ ที่ขาดทรัพยากรหรือความเชี่ยวชาญในบางเรื่อง ช่วยเพิ่มโอกาสในการเติบโตและแข่งขันได้
โดยเฉพาะในประเทศกำลังพัฒนา AI ยังสามารถแก้ปัญหาการขาดแคลนทรัพยากร เช่น การให้คำแนะนำทางการเกษตรแก่เกษตรกรรายย่อยที่มีจำกัดการเข้าถึงผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะช่วยเพิ่มผลผลิตและเปลี่ยนแปลงชีวิตของผู้คนในพื้นที่ชนบทได้อย่างชัดเจน
Agent AI: เพื่อนร่วมงานดิจิทัลที่ทำงานแทนได้
คำว่า "Agent" กลายเป็นคำฮิตในวงการ AI และ OpenAI ก็มีมุมมองเฉพาะเกี่ยวกับสิ่งนี้ Brad อธิบายว่า Agent คือระบบที่สามารถรับงานที่ซับซ้อนและทำงานอย่างอิสระได้ แม้จะเจอปัญหาที่ไม่เคยเจอมาก่อน โดยใช้ความสามารถในการคิดวิเคราะห์และแก้ไขปัญหาใหม่ๆ ไม่ใช่แค่ทำตามคำสั่งซ้ำๆ
ตัวอย่างงานที่ Agent AI สามารถช่วยได้ เช่น การเขียนโค้ด การทดสอบโปรแกรม หรือแม้กระทั่งการช่วยทีมขายจัดการกับลูกค้าจำนวนมาก โดย Agent จะคัดกรองลูกค้า แนะนำขั้นตอนการติดต่อ และช่วยผลักดันให้เกิดการปิดการขายได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ
ในอนาคต เราอาจจะใช้ Agent เหมือนกับพนักงานอีกคนในทีม ที่สามารถสื่อสารและทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น ผ่านอินเทอร์เฟซที่เหมาะสมกับแต่ละสายงาน เช่น โปรแกรมเมอร์อาจใช้ Agent ใน IDE ส่วนผู้ดูแลลูกค้าอาจมี Agent อยู่ในอีเมลหรือแชท
ทักษะที่จำเป็นในยุค AI: การบริหารจัดการและความฉลาดทางอารมณ์
เมื่อ AI เข้ามาช่วยงานที่ต้องใช้ความชำนาญด้านเทคนิคมากขึ้น ทักษะที่เกี่ยวข้องกับมนุษย์ เช่น การบริหารจัดการ การตัดสินใจ และความฉลาดทางอารมณ์ (EQ) จะมีความสำคัญมากขึ้น Ronnie ชี้ว่าในโลกที่ AI สามารถเขียนโค้ดหรือแก้ปัญหาทางเทคนิคได้แทบทุกอย่าง แต่การเชื่อมโยงคนเข้าด้วยกัน การทำงานร่วมกัน และการแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อนทางสังคมยังคงต้องใช้มนุษย์
เรื่องนี้สะท้อนว่าบุคลากรที่มีทักษะทางสังคม การสื่อสาร และความเข้าใจในความต้องการของผู้อื่น จะได้รับความต้องการมากขึ้น โดยเฉพาะในสายงานที่เกี่ยวข้องกับการขาย การตลาด และการบริหารจัดการทีม ซึ่งเป็นสิ่งที่หลายคนมองข้ามไปเมื่อพูดถึง AI
การศึกษาในยุค AI: โอกาสและความท้าทาย
การเปลี่ยนแปลงของ AI ยังส่งผลต่อระบบการศึกษาอย่างลึกซึ้ง Brad และ Ronnie เห็นตรงกันว่า AI จะเข้ามาเป็นครูผู้ช่วยส่วนตัวที่เข้าใจผู้เรียนแต่ละคน ช่วยปรับเนื้อหาและวิธีการสอนให้เหมาะสมกับรูปแบบการเรียนรู้ของแต่ละคน เช่น ผู้เรียนที่มีภาวะดิสเล็กเซียจะได้รับการช่วยเหลือที่เหมาะสมมากขึ้น
นอกจากนี้ AI ยังช่วยลดภาระการสร้างสรรค์เนื้อหาของครูและอาจารย์ เช่น การจัดทำหลักสูตร การเตรียมสไลด์ หรือการตั้งคำถามสำหรับนักเรียน ช่วยให้ครูมีเวลามากขึ้นในการเน้นพัฒนาทักษะเชิงลึก เช่น การคิดวิเคราะห์ การตัดสินใจ และการพัฒนาความมั่นใจ
แม้ในช่วงแรกจะมีความกังวลและบางโรงเรียนพยายามสั่งห้ามการใช้ AI แต่ในระยะเวลาสั้นๆ กลับมีการเปลี่ยนท่าทีไปสู่การยอมรับและนำ AI มาใช้สนับสนุนการเรียนการสอนอย่างกว้างขวาง
การวิจัยเศรษฐกิจ AI: ภาคส่วนและภูมิศาสตร์ที่ได้รับผลกระทบ
Ronnie เน้นว่า การวิจัยเศรษฐกิจของ AI ต้องโฟกัสที่การระบุภาคส่วนที่ได้รับผลกระทบก่อน รวมถึงภูมิภาคที่การเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นเร็วที่สุด โดยภาคส่วนที่มีข้อจำกัดด้านกฎระเบียบสูง เช่น สาธารณสุขและการศึกษา จะเปลี่ยนแปลงช้ากว่าภาคส่วนอื่นๆ ที่มีความยืดหยุ่นมากกว่า
นอกจากนี้ การสังเกตเห็นว่าพนักงานที่มีทักษะสูงมักจะนำ AI มาใช้ในงานก่อน ทำให้ภาคส่วนที่มีแรงงานเชี่ยวชาญ เช่น การเงินและวิจัยยา มีแนวโน้มเปลี่ยนแปลงเร็วกว่า ส่วนภูมิภาคที่มีอุตสาหกรรมหลักที่มีแรงงานทักษะสูงก็จะได้รับผลกระทบก่อนเช่นกัน
คำแนะนำสำหรับคนรุ่นใหม่และบทเรียนจากอดีต
เมื่อพูดถึงคำแนะนำสำหรับคนรุ่นใหม่ Ronnie เน้นว่าความสามารถในการคิดวิเคราะห์ การปรับตัว และการมีความยืดหยุ่นเป็นสิ่งสำคัญ เพราะโลกเปลี่ยนแปลงเร็วมาก การมี EQ และความรู้ด้านการเงินจะช่วยให้คนรุ่นใหม่เตรียมความพร้อมรับมือกับความไม่แน่นอนได้ดีขึ้น
เรื่องราวของ Dan Bricklin ผู้คิดค้น VisiCalc ในปี 1970 เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่าแม้เทคโนโลยีจะเปลี่ยนแปลง แต่โอกาสใหม่ๆ จะเกิดขึ้นเสมอ และงานใหม่ๆ ที่เราไม่เคยคิดถึงก็จะเกิดขึ้นตามมา
ผลกระทบเชิงเศรษฐกิจ: การเพิ่มโอกาสและความต้องการที่ขยายตัว
หนึ่งในประเด็นที่น่าสนใจคือ AI จะทำให้การเข้าถึงบริการที่เคยมีราคาแพงอย่างเช่น การให้คำปรึกษาทางกฎหมาย การวางแผนการเงิน หรือการดูแลสุขภาพ มีราคาถูกลงมาก ส่งผลให้ผู้คนจำนวนมากสามารถเข้าถึงบริการเหล่านี้ได้มากขึ้น
เมื่อความต้องการขยายตัวอย่างรวดเร็ว ตลาดใหม่ๆ จะเกิดขึ้น และผู้เชี่ยวชาญในสาขาต่างๆ จะมีโอกาสให้บริการลูกค้าที่หลากหลายและมีความซับซ้อนมากขึ้น ซึ่งสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจมากกว่าที่หลายคนคาดคิด
อนาคตของ OpenAI และการจ้างงานหลังยุค AGI
Brad และ Ronnie เห็นตรงกันว่า OpenAI จะยังคงเติบโตและจ้างงานเพิ่มขึ้นแม้ในยุคที่ AI ฉลาดมากขึ้นจนถึงระดับ AGI (Artificial General Intelligence) พวกเขามองว่าการใช้ AI จะช่วยให้คนทำงานได้มากขึ้นต่อคนหนึ่ง แต่ก็ต้องการคนมากขึ้นเพื่อรองรับการใช้งานที่ขยายตัวในวงกว้าง
นี่เป็นการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการจ้างงานมากกว่าการลดจำนวนคน และยังเป็นโอกาสให้บริษัทและองค์กรสามารถทำงานได้มากขึ้นด้วยทีมที่มีขนาดเหมาะสมกว่าเดิม
เคล็ดลับการใช้ ChatGPT ที่ได้ผลในชีวิตจริง
Brad แนะนำว่า AI ไม่ใช่แค่เครื่องมือสำหรับถามตอบ แต่ยังเป็นโค้ชที่ช่วยกระตุ้นความคิดและท้าทายสมมติฐานของเราได้ เช่น เขาใช้ ChatGPT ในการวางแผนการออกกำลังกายและควบคุมอาหารเพื่อเตรียมตัวเล่นบาสเก็ตบอลที่ Duke โดย AI ช่วยลดภาระการตัดสินใจและติดตามผลได้ดี
นอกจากนี้ โมเดล GPT-3 ยังช่วยเป็นคู่คิดที่ตั้งคำถามและท้าทายความคิดของเขาได้ ทำให้ได้มุมมองใหม่ๆ และแนวทางแก้ปัญหาที่หลากหลายมากขึ้น
บทสรุปส่งท้ายจากทีมงาน Insiderly
- AI กำลังเปลี่ยนแปลงโลกงานและเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว จากการเป็นเครื่องมือทดลองสู่การใช้งานจริงที่เข้าถึงง่ายและแพร่หลาย
- อินเทอร์เฟซแบบแชทของ ChatGPT เป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้ AI กลายเป็นเครื่องมือที่ผู้คนอยากใช้และเข้าใจได้ง่าย
- AI ช่วยเพิ่มผลผลิตในงานซอฟต์แวร์และวิทยาศาสตร์อย่างมหาศาล พร้อมเปิดโอกาสให้ธุรกิจขนาดเล็กและประเทศกำลังพัฒนาเติบโต
- Agent AI คือเพื่อนร่วมงานดิจิทัลที่รับงานซับซ้อนและทำงานแทนได้จริง ช่วยปฏิวัติรูปแบบการทำงานในหลายอุตสาหกรรม
- ทักษะที่สำคัญในยุค AI คือความสามารถในการบริหารจัดการ การตัดสินใจ และ EQ ที่ช่วยสร้างความเชื่อมโยงระหว่างคน
- การศึกษาต้องปรับตัวให้ AI เป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้ ช่วยลดภาระครูและเพิ่มโอกาสให้นักเรียนเรียนรู้ในแบบที่เหมาะสมกับตัวเอง
- AI จะเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงบริการต่างๆ ลดความเหลื่อมล้ำและขยายตลาดใหม่ๆ สร้างความต้องการแรงงานในรูปแบบใหม่ที่หลากหลาย
- OpenAI และองค์กรต่างๆ จะเติบโตและจ้างงานเพิ่มขึ้นแม้ในยุค AGI เพราะ AI คือเครื่องมือขยายศักยภาพ ไม่ใช่ตัวแทนที่มาทดแทนคนทั้งหมด
คำศัพท์เฉพาะทางเพิ่มเติม
- ChatGPT: โมเดล AI ที่ออกแบบมาให้โต้ตอบในรูปแบบบทสนทนา ช่วยให้ผู้ใช้สื่อสารและขอคำตอบได้เหมือนคุยกับมนุษย์
- Agent AI: ระบบ AI ที่สามารถรับผิดชอบงานซับซ้อนและทำงานได้อย่างอิสระโดยใช้ความสามารถในการวิเคราะห์และแก้ปัญหา
- AGI (Artificial General Intelligence): ปัญญาประดิษฐ์ที่มีความสามารถในการเข้าใจ เรียนรู้ และแก้ปัญหาได้ในระดับเทียบเท่าหรือเหนือกว่ามนุษย์ในทุกด้าน
- EQ (Emotional Quotient): ความฉลาดทางอารมณ์ ความสามารถในการรับรู้และจัดการอารมณ์ของตนเองและผู้อื่น
บทความนี้จึงเป็นเหมือนแผนที่ชี้ทางในโลก AI ที่กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ช่วยให้เราเห็นภาพว่าควรเตรียมตัวและปรับตัวอย่างไรเพื่ออยู่รอดและเติบโตในยุคที่ AI เป็นทั้งเครื่องมือและเพื่อนร่วมงานที่สำคัญของเรา

Insiderly Selection Tools
แนะนำเครื่องมือ AI ที่ได้รับการคัดเลือก
รับข่าวอัพเดทส่งตรงถึงอีเมลคุณ
มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของคอมมูนิตี้การเรียนรู้ของ Insiderly กันนะครับ ❤️😊